วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แค่มะลิลากลีบบาง


... แ ค่ ม ะ ลิ ล า ... ก ลี บ บ า ง
กลิ่นหอมจาง จาง....ในยามเช้า
เมื่อเจอแสงจ้า...เจ้ามะลิลาก็ถูกเผา
กลายเป็นเหี่ยวเฉา...ใครเล่าจะถวิล
              
แ ด ด ส ลั ว ล า ง...เจ้ากลีบบางก็หล่นจากขั้ว...
กลาดเกลี่อนไปทั่ว...หมดความหอมจนสิ้น
ไม่มีใครเค้าสน...ดอกไม้ที่หล่น...แล้วเปื้อนดิน
เจ็บจนชิน...ไม่มีใครได้ยิน...ว่าเสียใจ

..โ อ้ ว่ า...ม ะ ลิ ล า...ม า ริ น ท ร์


..โ อ้ ว่ า...ม ะ ลิ ล า...ม า ริ น ท ร์

อาจไม่ฟุ้งจรุงจินต์...เทียบดอกไหน

แม้นสีสันไม่ยวนเย้า...เร้าฤทัย

แต่เมื่อชิดใกล้...จักหอมละไม..

. . .ไ ม่ จื ด จ า ง . . .

อายจัง...
เอ-มิ-กา

ด อ ก ม ะ ลิ ล า เ จ้ า เ อ๋ ย


ด อ ก ม ะ ลิ ล า เ จ้ า เ อ๋ ย

อย่าเศร้านักเลย...แค่ไม่มีชื่อในนั้น

มามะคนดี...พี่ตั้งชื่อให้เจ้าเองก็แล้วกัน

.."มารินทร์".. เพราะไหมนั่น...เพียงงดงามสำหรับฉัน..ก็พอ

เอ-มิ-กา

ดีกว่ามีหัวใจ...แต่ไร้รัก


โลกนี้...มันก็เป็นของมันแบบนี้
บางคน...ต่อให้ผ่านไปกี่ปี...ก็ยังแน่นหนัก
ช่วยไม่ได้...ยากจะบังคับใจใครนัก
สุดจะห้ามหัก...ก็เพราะรัก...เป็นสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ

รู้...ว่าบางครั้ง...มันอาจไม่เป็นอย่างใจนึก
ก็พยายามแล้ว..ที่จะฝึก...และเริ่มต้นใหม่
เพราะรัก...จึงเต็มใจจมปลักกับมันต่อไป
ต่อให้ผุพังในสายตาใคร...ยังดีกว่ามีหัวใจ...แต่ไร้รัก

คนสำคัญ

คงเพราะเป็นคนสำคัญ
ที่ทำให้ฉัน....เฝ้ามองจันทร์และฝันเพ้อ
กลิ่นความละมุน...ยังกรุ่นเมื่อพบเจอ
แม้เป็นเพียงฝันละเมอ...หลงเพ้อเจ้อคนเดียวก็ตาม

แค่เพียงหนึ่งคน...ที่พอมีค่า
แค่บางเวลา...ที่เธอเอ่ยถาม
แค่ทำให้เธอยิ้มได้...เพียงชั่วครู่ชั่วยาม
ได้แค่นี้...คงไม่อาจนิยาม...หรือกล้าตอบคำถามของใคร

ฝากไว้กับดาวและแสงจันทร์

คืนนี้...หมดเรี่ยวแรงมองฟ้า
เหนื่อยและล้า...เพียงอยากหลับตาฝัน
คำว่าคิดถึง...จึงฝากไว้กับดาวและแสงจันทร์
ช่วยส่งให้คนฝั่งนั้น...แทนฉันที

บอกเขาด้วย...ว่าพักผ่อนบ้าง
ได้แต่แอบเป็นห่วงอยู่ห่าง ๆ อย่างนี้
ไกลเหลือเกิน...ช่องว่างที่เรามี
หวังเพียงคนดี...จะเห็นข้อความนี้บ้างสักครา

ระยะทางที่ห่างกัน
เป็นเหตุผลที่ทำให้ฉัน...ฝากความคิดถึงไว้กับฟ้า
เพราะวันใดที่เธอบังเอิญ...มองขึ้นมา
จะเห็นความห่วงหา...ท่ามกลางดาริกาที่พร่างพราว

เสียงของความรัก

ฉันได้ยินเสียงความรัก...แว่วมาจากโค้งฟ้า
พยายามมองหา...เสียงจากจันทราในคืนนี้
ท่ามกลางหมู่ดาว...พร่างพราวที่มี
ขอเพียงได้ฟังอีกสักที...คงจะดีกับหัวใจ

แล้วตอบกลับ...ด้วยเสียงแห่งความคิดถึง
ไม่รู้ว่าเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่ง...จะดังสักแค่ไหน
ไม้หวังให้ต้องกังวาน...ผ่านฟากฟ้าที่แสนไกล
ขอเพียงแค่ส่งไป...แล้วก้องในหัวใจ...เธอก็พอ
~_~*

โลกของฉัน

...โลกของฉัน...
ยังคงเงียบงันเหมือนวันเก่า
บางเวลาเหว่ว้าเพราะว่าเหงา
เพียงเพราะคิดถึงเขาที่จากไกล

...หากแต่โลกของฉัน...
ก็ยังหมุนไปตามเรื่องของมัน...ไม่ว่าวันไหน
ยังคงเป็นแกนเดิม...มิได้เพิ่มหรือลดลงไป
จะเจ็บร้าวอย่างไร..มันก็ยังหมุนของมันได้..ไม่เปลี่ยนแปลง

คืนนี้ ฟ้าไร้ดาว



... คื น นี้ ... ท้ อ ง ฟ้ า ไ ร้ ด า ว..
ที่เคยแพรวพราวเหมือนวันก่อน
ถามหัวใจ...ใยไม่รีบนอน
ยังคงอาวรณ์...เหมือนเมื่อตอนมีกัน

บ อ ก ตั ว เ อ ง...ใ ห้ เ จี ย ม หั ว ใ จ
ว่าบางที่สิ่งที่วาดไว้...อาจเพียงฝัน
เหนื่อยและอ่อนล้า...กับปัญหาสารพัน
หากเท่าที่รู้คือตะวัน...ยังคงขึ้นทางฝั่งนั้นทุกครา

อ รุ ณ รุ่ ง พ รุ่ ง นี้ ... จ ะ มี แ ส ง เ ห มื อ น เ ก่ า
สาดส่องความเศร้า...ให้หมดจากฟ้า
และแม้คืนนี้...ไม่มีแสงจากดาริกา
มิได้หมายความว่า...วันข้างหน้า...จะไม่มี

มารินทร์

อยู่คนเดียว..ชอบมองจันทร์...มองฟ้า
แล้วแอบเก็บเอามา...เรียงอ้อนเป็นกลอนใส
อาจเป็นสำนวน..ที่ออกจะรบกวนหัวใจ
เพราะฉันทลักษณ์อยู่ตรงไหน...หายังไงก็ไม่มี
                        
กลอนเปล่า เปล่า...มันก็แค่กลอนเปล่า เปล่า
ไม่เลิศหรูไฮโซเหมือนใครเค้า...ได้เท่านี้
หวังเพียงบางคนที่ผ่านมา...เค้ามองเห็นว่าน่ารักดี
ก็ขอแค่นี้....ไม่ได้ต้องมีหรือวาดหวังสิ่งใด


แต่คงไม่อาจหาญจะต่อกร
หรือไปนอนบนเตียง...เคียงใครได้
ขอบอกว่าอยู่ในวัยรัก...แต่ไม่อยากรักไว
อย่ามาทำปากหวานได้ไหม...ไม่หลงคารม
                
อย่ามาโม้...พี่บูมจ๋าอย่ามาโม้
เดี๋ยวมีน้ำโห...ที่ว่าหวานจักกลายเป็นขม
ไม่รักไม่ว่า..อย่ามากั๊กให้ใจระบม
ปล่อยคนอื่นเค้าดอมดม..บ้างปะไร


Marineค่ะ อ่านว่า มารินทร์
อาจไม่คุ้นหรือเคยได้ยินแถวไหน
เพราะเป็นชื่อของต้นมะลิลา...ที่บางคนเค้าหามาให้
..แล้วบอกว่าช่วยตั้งชื่อใหม่..จะได้จรดไว้ไม่มีวันเลือน